ค้นหา
CTRL+Kค้นหา
CTRL+Kค้นหา
CTRL+Kค้นหา
CTRL+K
“เอี่ยมรัตน์” ร้านขายวัตถุดิบและแพ็กเกจจิ้งทำขนมที่ให้บรรยากาศแบบผสมผสาน ทันสมัยแต่ยังคงความอบอุ่นเป็นกันเอง เหมือนเพื่อนเก่าแก่ที่มองตาก็รู้ใจ แม้จะเป็นร้านซูเปอร์มาเก็ตในชุมชน แต่สามารถสร้างยอดขายท้าทายส่วนแบ่งร้านโชห่วยยักษ์ใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นขนมนมเนยที่ฮิตติดเทรนด์ น้ำหวานชง ขนมปังและวัตถุดิบต่างๆ ที่สำคัญยังช่วยสร้างกำไรให้แม่ค้าตลาดนัดในพื้นที่ หลากหลายพันรายมาตลอดระยะเวลา 7 ปี
ร้านขายแป้ง นม น้ำตาล ที่สืบทอดการค้าในตลาดตั้งแต่รุ่นอากงอาม่า จากจุดเริ่มต้นของการหาพื้นที่เพื่อขยายเป็นที่จอดรถ ให้รองรับลูกค้าของร้านขายปลีกเจ้าใหญ่ของครอบครัวอย่าง “เกียรติสิน” จนพัฒนามาสร้างร้านเอี่ยมรัตน์ ที่โดดเด่นด้วยสินค้าอย่างวัตถุดิบทำขนมและเบเกอรีที่ครบครัน โดยปัจจุบันร้านเอี่ยมรัตน์ มีพื้นที่กว้างขวางมากถึง 504 ตารางเมตร และยังสามารถรองรับที่จอดรถได้มากกว่า 15 คัน
“เอี่ยมรัตน์” คืออะไร วันนี้เรามีคำตอบจาก “เจ๊โต และ เจ๊ชุง” เจ้าของร้านค้าแสนใจดีเป็นกันเอง ที่มาร่วมแบ่งปันประวัติความเป็นมาของร้านเอี่ยมรัตน์ให้ทุกคนได้รู้จัก และเข้าใจในมุมมองใหม่ๆ จากการบริหารร้านซูเปอร์มาเก็ตของคนวัยเบบี้บูมเมอร์ ที่มีแนวคิดทันสมัยไม่แพ้คนรุ่นใหม่เลยทีเดียว
“ตอนนั้นนะ ขายของในตลาดมาตั้งแต่ 6 ขวบ ช่วยพ่อกับแม่ บางวันก็ทำทอฟฟี่ไปขายที่โรงเรียน นอกจากเรียนแล้วเราได้ขายของ ได้เงิน ได้ประสบการณ์ปลูกฝังให้ทำธุรกิจก็เพราะที่บ้าน”
เจ๊โต – นิธิดา จรรยานิทัศน์ เจ้าของร้านเอี่ยมรัตน์ วัย 68 ปี (ทางขวามือ) และเจ๊ชุง-จุฑามาศ จรรยานิทัศน์ วัย 63 ปี ผู้เป็นน้องสาว (ทางซ้ายมือ) ยังคงเข้าออฟฟิศทุกเช้า และดูแลบริหารการจัดการร้านเอี่ยมรัตน์ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ร้านแห่งนี้เปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 7 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 จนปัจจุบัน โดยเปิดขายตั้งแต่เวลา 7:00 น. จนถึง 19:00 น. ในทุกๆ วัน แทบไม่มีวันหยุด
“ ร้านนี้เป็นชื่อของพ่อกับแม่ พ่อชื่อเอี่ยมฮั้ว แม่ชื่อรัตนี เราเลยเอาชื่อพ่อกับแม่มารวมกันตั้งเป็นเอี่ยมรัตน์” เจ๊โตเล่าพร้อมรอยยิ้ม “มันบังเอิญจริงๆ ตอนแรกจะสร้างที่จอดรถ แต่ได้พัฒนาขยับขยายกลายเป็นร้านอีกแห่งหนึ่ง เราก็มองเห็นโอกาสตรงนี้ที่คนจะเข้ามาหาซื้อวัตถุดิบสินค้าได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องวิ่งเข้าไปซื้อในเมือง เลยลงทุนต่อยอดให้เป็นร้านจำหน่ายวัตถุดิบและแพ็กเกจจิ้งทำขนมไปเลย จอดปุ๊บก็เดินเข้าร้านได้ทันที”
ถ้านึกถึงเอี่ยมรัตน์ ก็ต้องนึกถึงร้านขายขนมและแพ็กเกจจิ้ง ร้านเรามีสโลแกนว่า “ช่วยประหยัด สร้างกำไร” เราไม่ได้ขายสินค้าในราคาแพง เพราะเรามองถึงลูกค้าเป็นหลัก ผู้ประกอบการรายเล็กคือเป้าหมายของเรา ยอดบิลต่อครั้งจึงไม่ได้สูงมาก ไม่ว่าจะซื้อมากหรือน้อย เราก็มีราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้เพื่อนำไปลงทุนและสร้างอาชีพในอนาคต
จุดเด่นของเอี่ยมรัตน์จริงๆ แล้ว คือ เราจำลูกค้าของเราได้เกือบหมด บางคนเขามาซื้อของไปทำขนมขายทุกวันก็รู้ใจ เขาอยากได้อะไรใหม่ๆ ก็บอก เราก็ไปหามาขาย ที่สำคัญเราขายราคาไม่แพง และมีของให้เลือกหลากหลาย จะซื้อยกโหลหรือจะซื้อปลีกเราก็มีจำหน่าย”
“จะเป็นวัตถุดิบนะ พวกน้ำตาล นม แป้งต่างๆ ที่เป็นตัวยืนพื้นในการทำขนม ทั้งขนมหวานไทยและเบเกอรี เราก็จะมีวัตถุดิบเหล่านี้เตรียมให้เพียงพอกับทางลูกค้า รวมถึงสินค้าแช่แข็ง แค่คุณบอกว่าจะทำขนมอะไรแบบไหน ใช้แป้งกี่ชนิดผสม เราก็มีให้หมด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้แช่แข็งตระกูลเบอรี ซอสสีสันต่างๆ ของแต่งหน้าเค้ก รวมไปถึงแพ็กเกจจิ้งสวยๆ ดีไซน์ใหม่ๆ พวกถุง แก้ว กล่องโฟม ก็มีวางจำหน่ายเพื่อตอบโจทย์แม่ค้าแต่ละราย”
“ ช่วงเช้าตรู่และช่วงหัวค่ำจะขายดีมาก เพราะแม่ค้าก็จะมาซื้อวัตถุดิบกันแต่เช้า ส่วนวัยรุ่นหรือคนที่ทำอาชีพเสริม เค้าก็มาซื้อช่วงเย็นหลังเลิกงาน เราเลยเปิดยาว 12 ชั่วโมง เน้นความสะดวกของลูกค้าเป็นหลัก เฉลี่ยวันนึงก็มีลูกค้าประมาณ 300 – 400 ราย ยิ่งหน้าเทศกาล อย่างช่วงก่อนปีใหม่ร้านก็จะขายดีเป็นพิเศษ”
“เยอะมาก ตอนนี้มีมากกว่า 3,000 รายการ” เจ๊โตตอบเสียงดังฟังชัด ขณะที่พาทีมงานเดินเยี่ยมชมภายในร้าน “นิสัยเจ๊จริงๆ ค่อนข้างเป็นระเบียบ (หัวเราะ) เราชอบความสวยงามสบายตา พนักงานในร้านเอี่ยมรัตน์เราจึงอบรมเรื่องการจัดเรียงและจำแนกหมวดหมู่สินค้าอย่างเป็นระบบ ให้เห็นชัดเจน หยิบจับได้ง่าย เพราะสินค้าทุกอย่างมีอายุการผลิต ที่มาพร้อมรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก ของชนิดเดียวกันแค่ต่างสีต่างแพ็กเกจ ก็แยกได้หลายสิบรายการ พอทุกอย่างเป็นระบบ พนักงานก็ทำงานได้ง่ายและมีเวลาในการใส่ใจลูกค้าแต่ละรายมากขึ้น บางทีเขาไม่รู้ว่าแป้งตัวไหนดีหรือเหมาะกว่า พนักงานก็แนะนำได้ทันที ลูกค้าก็ประทับใจ”
“ครบนะ แต่จริงๆ ลูกค้าหลักของเราคือ วัยผู้ใหญ่อายุประมาณ 30 – 40 ปี ส่วนมากเป็นแม่ค้าขายขนมในตลาดนัดที่อำเภอบ้านไผ่และใกล้เคียง ครูอาจารย์ก็มีนะ ที่ทำขนมขายหาอาชีพเสริม ต้องขอบคุณเทคโนโลยี ยูทูบต่างๆ เค้าดูคลิปก็อยากทำ รับพรีออเดอร์กันเยอะขึ้น วัยรุ่นบางคนก็ทำให้เพื่อนให้ครอบครัวได้ชิม ก็มีเด็กรุ่นใหม่มาซื้อของกันตลอด”
“ไม่มีเคล็ดลับอะไรหรอก ร้านเราขายดีต่อเนื่องมายาวนาน มันเป็นข้อดีของร้านในชุมชน คือ เข้าถึงง่าย บางชนิดราคาถูกกว่าร้านในตัวเมือง เพราะเรามีโกดังสต๊อกสินค้าหลายสิบที่ ทำให้ตั้งราคาได้ถูกลง ที่สำคัญมีสินค้าหลากหลาย แรกๆ ที่เปิดร้านถึงกับต้องตะแคงเข้าร้าน” เจ๊โตเล่าพร้อมหัวเราะ “เดี๋ยวนี้สบาย กว้างขวาง เดินชอปปิงได้แบบซูเปอร์มาเก็ต จอดรถได้เยอะสะดวก อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ พนักงานของเรามีใจรักในงานบริการ กระตือรือร้นในการดูแลลูกค้าไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านหรือออนไลน์”
“หลายอย่างเลย เราต้องทันเทคโนโลยีนะ อย่างเจ๊โต เจ๊ชุงเองก็ใช้ไลน์ คนที่นี่มีมือถือ ใช้ไลน์โทรหาลูกหลานกันได้สะดวก พอลูกน้องมาอธิบายว่าไลน์ในมือถือเนี่ยมันเปิดร้านได้ มันทำอะไรได้บ้าง เราก็ตื่นเต้นนะ (หัวเราะ) อะไรที่เพิ่มยอดขาย ช่วยโปรโมตร้านให้คนรู้จักได้ไว เราก็ต้องเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ”
“เจ๊ยังมองในปัจจุบันที่เราทำได้ ตอนนี้เราก็เริ่มมาจับตลาดออนไลน์มากขึ้น ทางร้านก็มีการสร้างแฟนเพจเฟซบุ๊ก และจะเอาไลน์มาใช้โปรโมตให้ลูกค้าในบ้านไผ่ได้รู้จัก เพราะร้านเรามีสินค้า มีโปรโมชันเยอะ แจกโบรชัวร์ หรือติดป้ายบอกอาจจะไม่เพียงพอ เป็นเพื่อนในไลน์มันง่าย มันมีข้อความที่จะช่วยให้ลูกค้าเห็นข่าวสารได้ทันที แค่เปิดบลูทูทไว้แล้วเดินเข้ามาในบริเวณร้าน”
“ เจ๊อยากให้ทุกคนทั่วประเทศสั่งของได้ ซื้อได้ ก็จะวางระบบขายออนไลน์ให้สะดวกกับลูกค้าใหม่ๆ ด้วย”
ทีมพนักงานของเอี่ยมรัตน์ยังเสริมอีกว่า “ในอนาคตก็มีแผนจะทำเว็บไซต์แบบอีคอมเมิร์ซ เพื่อเลือกซื้อสินค้าและทำบริการจัดส่งถึงหน้าบ้าน เพราะเอี่ยมรัตน์ เราถือเป็นส่วนหนึ่งในการรวบรวมกลุ่มแม่ค้าหรือคนที่รักการทำขนมในชุมชน ปัจจุบันทางร้านยังรับนักศึกษาฝึกงานจากสถาบันอาชีวะ มาฝึกงานที่ร้าน รวมถึงสนับสนุนสินค้าราคาพิเศษให้สถาบันนำไปสอนสร้างอาชีพ เลยอยากใช้โอกาสตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่พัฒนาชุมชนให้แข็งแกร่ง และพัฒนาเป็นฟู๊ดคอมมูนิตี้มอลล์ ที่มีกิจกรรมส่งเสริมอาชีพและแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนมากขึ้นในอนาคต”
สนใจแวะเยี่ยมชมร้านเอี่ยมรัตน์ สามารถไปได้ที่
